Brainwell Medical  |  Advanced Brain Stimulation

Brainwell Medical  |  Wisdom Energy Longevity Laugh

ปรับตัวอย่างไรเมื่อครอบครัวมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์

การปรับตัวภายในครอบครัวเมื่อมีผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์

การดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องการความเข้าใจจากทุกคนในครอบครัว เนื่องจากโรคนี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการคิด ความจำ และพฤติกรรมของผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดและความไม่แน่นอนในชีวิตประจำวันของสมาชิกในครอบครัว

ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s)

โรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะที่ทำให้สมองเสื่อมถอยลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการจดจำและการสื่อสาร โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ความเสี่ยงในการเกิดโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการและระยะของโรคเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวสามารถปรับตัวและจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับตัวของสมาชิกในครอบครัว

  1. การสื่อสารที่ชัดเจน: สมาชิกในครอบครัวควรพูดคุยกับผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ใช้คำพูดสั้น ๆ และชัดเจน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  2. การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: ควรจัดบ้านให้ปลอดภัยและไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย
  3. การสนับสนุนกิจกรรมประจำวัน: กระตุ้นให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่สามารถทำได้เอง เช่น การอาบน้ำ การรับประทานอาหาร เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง
  4. การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง: การทำกิจกรรมที่กระตุ้นความจำ เช่น การทายภาพสมาชิกในครอบครัว หรือการร้องเพลง สามารถช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้
  5. การดูแลด้านอารมณ์: สมาชิกในครอบครัวควรมีความเข้าใจและอดทนต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ป่วย เช่น อาการหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน โดยไม่ควรโต้เถียงหรือทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเครียด

การฟื้นฟูด้วย Transcranial Pulse Stimulation (TPS)

การฟื้นฟูผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการดูแลที่ครอบคลุมและวิธีการที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและชะลอการเสื่อมสภาพของสมอง ซึ่งการใช้เทคโนโลยี TPS (Transcranial Pulsed Stimulation) หรือ การใช้คลื่นพัลส์ซึ่งเป็นคลื่นกระแทกพลังงานต่ำกระตุ้นเซลล์ประสาทในสมอง เป็นวิธีการฟื้นฟูที่น่าสนใจในกรณีของผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ เนื่องจากสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดและเซลล์สมองที่ฝ่อลงตามกระบวนการของโรค ทำให้ผู้ป่วยมีความจำที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หรือกรณีที่มีอาการรุนแรงก็จะฟื้นฟูโดยมีเป้าหมายเพื่อการชะลอการพัฒนาของโรค ร่วมกับการรักษาตามมาตรฐาน

ประโยชน์ของ TPS

  1. เพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง: การกระตุ้นด้วย TPS ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ในสมอง ซึ่งทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง
  2. พัฒนาการทำงานของสมอง: การมีเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงสมองมากขึ้นสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง เช่น ความจำ การเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ การพูด
  3. กระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาท: TPS ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ ซึ่งมีผลดีต่อการฟื้นฟูสมองและการปรับตัวในกรณีที่เกิดความเสียหายจากโรคหรือการบาดเจ็บ
  4. เสริมสร้างสมาธิและความคิดสร้างสรรค์: การมีออกซิเจนและสารอาหารที่เพียงพอช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ส่งผลให้มีสมาธิที่ดีขึ้นและความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น

ขั้นตอนการฟื้นฟูกระตุ้นสมองด้วย TPS

  1. ประเมินโดยแพทย์ผู้เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านการกระตุ้นสมอง ประเมินข้อห้าม ข้อควรระวัง ความเหมาะสม ของผู้ป่วยก่อนการรักษา เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าสูงสุดของผู้ป่วย
  2. ผู้ป่วยและญาติ และ/หรือแพทย์เจ้าของไข้ เข้ารับการปรึกษาผ่านวิดิโอคอลกับทีมแพทย์ จะแจ้งผลการประเมิน ให้ความรู้ คำแนะนำ การตรวจพิเศษเพิ่มเติมอื่นๆ และนัดวันทำการฟื้นฟูกระตุ้นสมอง
  3. ผู้ป่วยมาทำการกระตุ้นสองตามนัดสม่ำเสมอ ใช้เวลา 30-45 นาทีต่อเคส 1-3 ครั้ง/สัปดาห์
  4. เมื่อทำเสร็จ ถ้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

การกระตุ้น TPS ได้ผลเหมือนกันทุกที่หรือไม่?

TPS (Transcranial Pulse Stimulation) เป็นชื่อเทคโนโลยีที่ใช้ในการฟื้นฟูสมอง เครื่องแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน คลื่นย่อมไม่มีความต่าง แต่ถ้าคนละแบรนด์ก็อาจให้ผลที่ต่างกัน ตามคุณภาพของอุปกรณ์

การใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังนี้:

  1. ความชำนาญของทีม: แม้เครื่อง TPS จะเหมือนกันในยี่ห้อเดียวกัน แต่ทักษะและประสบการณ์ของผู้ฟื้นฟูในการใช้งานเครื่องมีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลลัพธ์ของการฟื้นฟู สมองเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน การตรวจสอบอย่างละเอียดและการเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การตรวจ EEG, qEEG, LORETA, MRI, MRA, fNIR ก่อนเริ่มการทำ TPS เพื่อให้ได้ผลที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากับคนไข้มากที่สุด
  2. เทคนิคการใช้งาน: การใช้งานเครื่อง TPS ต้องมีการตั้งค่าและการจัดการที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเลือกตำแหน่งการกระตุ้นและพารามิเตอร์การกระตุ้นเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้กระบวนการฟื้นฟูมีประสิทธิภาพ เทคนิคที่ต่างกันผลลัพธ์จะต่างกัน
  3. ป้องกันความเสี่ยง: การใช้งานเครื่อง TPS อย่างไม่ระมัดระวังอาจมีความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ เช่น เลือดออกในสมอง, สมองช้ำ, หรือกระตุ้นการชัก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการตรวจสอบอย่างละเอียดและการเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ
  4. ความแตกต่างของผลลัพธ์: เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ การฟื้นฟูสมองด้วย TPS อาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในแต่ละสถานพยาบาล การเลือกสถานพยาบาลที่มีแพทย์ที่มีประสบการณ์และเทคนิคที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

Brainwell Medical ✚ เป็นผู้เชี่ยวชาญการกระตุ้นสมองประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2012 เป็นผู้บุกเบิกและผู้ฝึกสอนการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก TMS และคลื่นพัลส์ TPS ในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ

สรุป

การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ต้องการความร่วมมือและความเข้าใจจากครอบครัวในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย, การสื่อสารที่ชัดเจน, และการสนับสนุนกิจกรรมประจำวัน การฟื้นฟูด้วย TPS อาจช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย แต่ควรดำเนินการโดยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Brainwell Medical

Brainwell Medical คือทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จิตวิทยา และสภาวะของสมอง เรามุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วยที่ซับซ้อนด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือ และประสบการณ์ อย่างมืออาชีพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

“อัลไซเมอร์” แค่หลงลืมธรรมดาหรือภาวะสมองเสื่อม!

“อัลไซเมอร์” แค่หลงลืมธรรมดาหรือภาวะสมองเสื่อม!

ใช่คุณหรือเปล่า? มาเช็กกันว่าคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเสี่ยงหรือไม่! คุณเคยกำลังเดินไปหาสิ่งของบางอย่าง….. แต่พอถึงจุดหมายแล้วกลับลืมไปเสียอย่างนั้น?...

จัดบ้านให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์

จัดบ้านให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์

การจัดบ้านให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์: การออกแบบที่ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยและสุขภาพ โรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะสมองเสื่อมที่มีผลกระทบต่อการรับรู้ ความจำ...

เมนูอาหารสำหรับคนไข้อัลไซเมอร์

เมนูอาหารสำหรับคนไข้อัลไซเมอร์

เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์: โภชนาการส่งเสริมสุขภาพสมอง โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นโรคสมองเสื่อม (dementia) โดยมีผลต่อความจำ...

แสดงความคิดเห็น