Stroke
Stroke โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?
Stroke โรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอาการของแขนขา หรือใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งชา อ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก หรือเคลื่อนไหวไม่ได้ อย่างทันทีทันใด เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดแดงไปเลี้ยงสมองตีบ ตัน หรือแตก ทำให้เนื้อสมองขาดอาหารและออกซิเจน เกิดภาวะเนื้อสมองเสียหาย
โรคหลอดเลือดสมองมี 2 ประเภทหลัก ๆดังนี้ คือ
- โรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด (ตีบ/ตัน) (Ischemic Stroke) เกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองถูกขัดขวาง ทำให้สมองไม่สามารถรับออกซิเจนและสารอาหารจากเลือดได้ ส่งผลให้เซลล์สมองตายในเวลาไม่กี่นาที
- โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) ทำให้เกิดเลือดออกในสมองอย่างฉับพลัน ก้อนเลือดจะไปกดทับหรือเบียดเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อสมอง
จากข้อมูลงานวิจัยทั่วโรคพบว่าประมาณ 90% ของโรคหลอดเลือดสมอง เป็นประเภทขาดเลือด(ตีบ/ตัน) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอุดตันของหลอดเลือด ส่วนที่เหลือ 10% เป็นประเภทเส้นเลือดแตก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตกเลือดภายใน
การรับรู้อาการและสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองเหล่านี้ และการรีบรักษาทางการแพทย์ทันทีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่จะลดผลกระทบจากโรคหลอดเลือดสมองให้เกิดความเสียหายต่อสมองน้อยที่สุด
โรคหลอดเลือดสมองมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็สามารถพัฒนาช้าๆ ได้ในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือแม้กระทั่งไม่กี่วัน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการอุดตันชั่วคราวของหลอดเลือดสมอง (TIA) ซึ่งเป็นการอุดตันชั่วคราวที่สลายไปก่อนที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสมอง แล้วพัฒนาเป็นโรคหลอดเลือดสมองเต็มรูปแบบ อาการเฉพาะที่ประสบขึ้นอยู่กับประเภทของโรคหลอดเลือดสมองและพื้นที่ของสมองที่ได้รับผลกระทบ.
สัญญาณของ TIA หรือโรคหลอดเลือดสมองอุดตันชั่วคราว อาจรวมถึง:
- ความสับสนอย่างฉับพลัน, พูดลำบาก, หรือความยากลำบากในการเข้าใจคำพูด
- ความมึนงงหรืออ่อนแรงอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะที่ด้านหนึ่งของร่างกาย
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ปัญหาการมองเห็นอย่างฉับพลันในหนึ่งหรือทั้งสองตา ตาพล่ามัว
- ความยากลำบากในการเดิน, เวียนศีรษะ หรือการสูญเสียสมดุลหรือการประสานงาน
ภาวะแทรกซ้อนหลังจากโรคหลอดเลือดสมอง:
- ลิ่มเลือดอุดตัน
- การสูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะหรือการขับถ่าย
- การสูญเสียความหนาแน่นหรือความแข็งแรงของกระดูก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ
- ปัญหาในการใช้ภาษา, ความคิด, หรือความจำ
- อาการชัก
- สมองบวม
- ปัญหาการกลืนและปอดบวม
ซึ่ง Stroke นั้นมีทั้งปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้และไม่สามารถควบคุมได้ ได้แก่
ปัจจัยที่ควบคุมได้:
- ความดันโลหิตสูง
- โรคอ้วน
- การไม่ออกกำลังกาย
- การรับประทานอาหารที่ไม่ดี
- การสูบบุหรี่
ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้:
- อายุ
- ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า และระดับความเครียดสูง
- ประวัติครอบครัวและพันธุกรรม
- การอยู่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศ
- ภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพอื่นๆ
- เชื้อชาติและชาติพันธุ์
- การติดเชื้อไวรัสหรือภาวะต่างๆ
การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง:
การรักษาโรคหลอดเลือดสมองขึ้นอยู่กับว่าเป็นประเภทไหน ความรุนแรงของโรคตามระยะเวลาที่ผ่านไปนับตั้งแต่อาการเริ่มต้นและมีภาวะทางการแพทย์อื่นๆ หรือไม่ ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาโดยการให้ยาและขั้นตอนการรักษาที่แตกต่างกันไป ณ เวลาที่เข้ามาถึงโรงพยาบาลและตลอดระยะเวลาที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ทุกนาทีมีค่า!
โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะที่คุกคามชีวิตซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการรุนแรง ซึ่งโดยทั่วไปผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลช้า ได้รับการรักษาช้า จำเป็นต้องใช้การดูแลแบบประคับประคอง ซึ่งอาจช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมกับอาการที่ลดลงอย่างช้า ๆ การดูแลแบบนี้มุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและความเครียดของภาวะความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่ เพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมและความสะดวกสบาย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ Brainwell Medical Pattaya และ Bangkok จึงได้นำนวัตกรรมการรักษาโรคหลอดเลือดสมองที่ก้าวหน้าจากยุโรป เข้ามาเป็นตัวเลือกในการช่วยฟื้นฟูสมองที่เสียหาย ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวมี 2 ชนิดดังนี้
- การกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงผ่านกะโหลกศีรษะ (Transcranial Pulse Stimulation – TPS Brainwell+): เทคโนโลยีการกระตุ้นสมองแบบไม่รุกรานโดยใช้คลื่นเสียงพลังงานต่ำเพื่อเป้าหมายที่พื้นที่เฉพาะของสมอง เพื่อเสริมการทำงานของเซลล์สมอง ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทใหม่
- การกระตุ้นสมองด้วยสนามแม่เหล็กผ่านกะโหลกศีรษะ (Transcranial Magnetic Stimulation – TMS Brainwell+): อุปกรณ์ที่ไม่ต้องผ่าตัดซึ่งใช้คลื่นแม่เหล็กเพื่อกระตุ้นสมองและระบบประสาท มุ่งเน้นความปลอดภัยให้ผู้ป่วย การรักษาที่แม่นยำ ลดผลข้างเคียง และเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูสูงสุด พร้อมทั้งประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยอีกด้วย
หมอขอฝาก การทดสอบ FAST สามารถช่วยให้คุณจำได้ว่าควรทำอย่างไรหากคิดว่ามีใครบางคนกำลังมีโรคหลอดเลือดสมอง:
F — Face (ใบหน้า): ลองให้บุคคลนั้นยิ้ม, มีด้านหนึ่งของใบหน้าตกลงหรือไม่?
A — Arms (แขน): ลองให้บุคคลนั้นยกแขนทั้งสองข้าง, มีแขนข้างหนึ่งลู่ลงหรือไม่?
S — Speech (การพูด): ลองให้บุคคลนั้นพูดตามด้วยคำพูดง่ายๆ, คำพูดของพวกเขาไม่ชัดหรือแปลกหรือไม่
T — Time (เวลา): หากคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้, โทรแจ้งฉุกเฉินทันที เพื่อรีบนำส่งรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
สถิติในปี 2566 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 349, 126 ราย เสียชีวิต 36,214 ราย เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุน้อยกว่า 70 ปี
สนใจติดต่อเพื่อนัดหมายรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ในการรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตด้วยเครื่องมือ TPS and TMS ได้แล้ววันนี้ ที่ช่องทางติดต่อด้านล่าง