เซลล์สมองเด็กออทิสติกมีกิ่งก้านมากเกินไป

ในเด็กปกติ

ภายในหกปีแรก เซลล์สมองมีการแตกกิ่งก้านสาขาออกมาเยอะมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมในการเรียนรู้ทักษะต่างๆ

กิ่งก้านสาขาของเซลล์สมองเหล่านี้ ต้องใช้พลังงานมหาศาล สมองมีเซลล์สมอง (neuron) ตั้ง 86,000 ล้านเซลล์  เด็กจึงกินเก่ง นอนเก่งมาก 

ถ้ากินอาหารหรือขนมที่เป็นอันตรายต่อสมอง (ขนมหวาน ฟาสต์ฟูด ไอศกรีม ของทอด) ญาติสูบบุหรี่ หรือนอนดึก จะทำให้พัฒนาการลดลงอย่างมหาศาล

ในช่วงนี้ถ้าให้น้องๆอยู่กับอะไร เค้าจะซึมซับเร็วมาก เช่น ให้เล่นเปียโน เล่นกีตาร์ วาดรูป เรียนภาษา ฯลฯ  คนที่เป็นอัจฉริยะจึงมักมีประวัติคลุกคลีอยู่กับสิ่งนั้นตั้งแต่ก่อน 6 ขวบ เพราะสมองเหมือนฟองน้ำ พร้อมซึมซับทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี  ดังนั้นในเด็กหกขวบแรก (โดยเฉพาะ 0-3 ขวบ) ถ้าให้ดูแต่ทีวี youtube โดยไม่ฝึกพูดคุยเล่นกับคนอื่น เด็กก็จะมีปัญหาการสื่อสาร การพูด และถ้าปล่อยเวลาเนิ่นนานไป  จะยิ่งรักษายากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเด็กโตขึ้น กิ่งก้านเหล่านี้จะมากเกินความจำเป็น สมองจะเริ่มกระบวนการตัดแต่งกิ่ง “Pruning” เพื่อตัดเอากิ่งที่ไม่ใช้ออกไป เพราะกิ่งก้านนี้มันกินพลังงานมากเกินไป ทักษะอะไรที่ใช้บ่อยๆ เซลล์สมองส่วนนี้จะยังอยู่ ตัวใหญ่ขึ้น และแข็งแรงขึ้น ส่วนทักษะอะไรที่ไม่ใช้ก็จะค่อยๆหายไป เรียกหลักการนี้ว่า “Use it or loose it” เพื่อให้สมองประหยัดพลังงานที่สุด คุ้มค่าที่สุด เรียกว่า brain efficiency

ในเด็กออทิสติก 

ซ้าย เด็กปกติ – ขวา เด็กออทิสติก ที่มีกิ่งก้านมากเกินไป

ในรูป จะเห็นจุดเล็กๆตามกิ่งก้านของเซลล์สมอง จุดเหล่านี้คือจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองอื่นๆ เรียกจุดนี้ว่า synapse เมื่อดูด้วยตาเปล่า จะเห็นว่ารูปขวามือที่เป็นเด็กออทิสติก มีจุดเยอะกว่าด้านซ้ายมือที่เป็นเด็กปกติ

ในสมองเด็กออทิสติกพบว่า กระบวนการตัดแต่งกิ่ง Pruning น้อยกว่าเด็กปกติ ทำให้เซลล์สมองที่อยู่ใกล้ๆกัน มีการติดต่อสื่อสารระยะสั้นมากเกินจำเป็น (short range overconnectivity) และทำให้การติดต่อระยะไกลน้อยลง (long range underconnectivity) 

การติดต่อระยะสั้นที่มากเกินไป (short range overconnectivity) ทำให้น้องๆเกิดพฤติกรรมหมกหมุ่น ทำอะไรซ้ำๆ โดยที่ห้ามตัวเองไม่ได้ เช่น ดูพัดลม เขียนรูปทรงเดิม พูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา 

การติดต่อระยะไกล (long range connectivity) ระหว่างสมองกลีบอื่นๆ เป็นตัวสำคัญที่ทำให้ฉลาด เรียนรู้ได้ดีและเร็ว ในออทิสติกจะมีปัญหาการติดต่อระยะไกลน้อยลง ทำให้น้องเรียนรู้ได้ช้ากว่าปกติ

การกระตุ้น nTMS ช่วยการทำงานของการติดต่อระยะไกล ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เร็วขึ้น น้องๆจึงเรียนรู้ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 200-5,000%